วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ระบบปฎิบัติการ Windows

การใช้งานระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows XP
2.1 การเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows XP
เมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows XP ไว้แล้ว เครื่องจะเข้าสู้
ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows XP อัตโนมัติ
2.2 การออกจากระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows XP
เมื่อต้องการออกจากระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows XP ควรปิดโปรแกรมที่ใช้งานทั้งหมด ให้
เรียบร้อยก่อน จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Start
โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
1. Log Off คือ การออกจากระบบเพื่อเปลี่ยนผู้ใช้ โดยกลับไปรอเข้าระบบใหม่อีกครั้ง
2. Turn Off หรือ Shut Down คือ การปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ มีให้เลือก ดังนี้
Hibernate คือ การปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยระบบจะเก็บสภาพแวดล้อมการทำงานไว้ และเมื่อเปิด
เครื่องคอมพิวเตอร์ครั้งต่อไป ระบบจะทำงานตามสภาพแวดล้อมเดิมก่อนปิดเครื่อง
Turn Off คือ การปิดโปรแกรมทั้งหมดและปิดเครื่องคอมพิวเตอร์
Restart คือ การปิดโปรแกรมทั้งหมดและเริ่มต้นกระบวนการทำงานของเครื่องใหม่
เมื่อปรากฏคำว่า It’s now safe to turn off your computer. จึงกดปุ่ม Power ปิดเครื่องและปิด
จอคอมพิวเตอร์ แต่เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ จะทำการปิดตัวเองโดยที่ไม่ต้องกดปุ่ม Power
11
2.3 ส่วนประกอบของระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows XP
2.3.1 เดสก์ทอป (Desktop)
เดสก์ทอป (Desktop) คือบริเวณพื้นที่หรือฉากของระบบปฏิบัติการ Windows เปรียบเสมือน
ส่วนบนของโต๊ะทำงาน ซึ่งบริเวณนี้เป็นส่วนแสดง Icon หรือ Windows ที่เปิดทำงาน และเป็นส่วนที่
ติดต่อกับผู้ใช้โดยตรง ซึ่งแสดงผลให้สามารถรับรู้ได้ และผู้ใช้สามารถโต้ตอบการทำงานได้ ดังแสดงในรูป
12
2.3.2 แถบงาน (Taskbar)
Taskbar เป็นแถบแสดง Start Menu และหากมีโปรแกรมเปิดใช้งานอยู่ จะแสดงแถบชื่อ
โปรแกรมให้เห็นที่ Taskbar ดังรูป หากต้องการใช้งานโปรแกรมใด ให้คลิกที่แถบชื่อโปรแกรมนั้น และถ้า
มีการปิดโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ แถบของโปรแกรมนั้นจะหายไปจาก Taskbar
2.3.3 เมนู Start (Start Menu)
ปุ่ม Start เป็นปุ่มสำหรับเรียก เมนูหลักของระบบปฏิบัติการ Windows XP ซึ่งจะประกอบด้วย
เมนู (Menu) สำหรับเปิดเมนูย่อยหรือเรียกใช้โปรแกรมของระบบ Windows XP
เมนูย่อย (Submenu) สำหรับเปิดเมนูย่อยหรือเรียกใช้โปแกรมต่าง ๆ ที่ติดตั้งไว้
2.3.4 การใช้งานโปรแกรม
การเรียกใช้งานต่างๆ ที่อยู่ในเครื่อง ให้คลิกที่ปุ่ม Start แล้วเลื่อนเมาส์ไปที่ All Programs จะปรากฏ
โปรแกรมที่มีอยู่ในเครื่องดังภาพข้างล่าง
13
2.4 หน้าต่าง (Windows)
1. ไตเติลบาร์ (Title bar) แสดงชื่อของโปรแกรมที่ใช้งานอยู่
2. เมนูบาร์ (Menu Bar) แสดงเมนูของโปรแกรมใช้ในการเลือกคำสั่ง
3. แถบเครื่องมือ (Toolbar) เป็นรูปภาพเล็ก ๆ แทนคำสั่งใช้งานต่าง ๆ
4. แถบตำแหน่ง (Addressbar) แสดงตำแหน่ง ณ ขณะนั้น
5. มินิไมซ์ (minimize) ปุ่มลดขนาดหน้าต่างหรือปิดหน้าต่าง
6. แมกซิไมซ์ (Maximize) ขยายหน้าต่างให้เต็มจอ
7. ปุ่มปิดโปแกรม (Close) ใช้ในการปิดโปรแกรม
8. ไอคอน (Icon) คือ รูปสัญลักษณ์ที่ใช้เรียกโปรแกรม
9. แถบเลื่อน (Scroll Bar) ใช้ในการเลื่อนหน้าจอไปซ้าย ขวา ขึ้นลงตามทิศทางลูกศร
10. แถบสถานะ (Status Bar) แสดงสถานะการทำงาน
2.5 การเปิด-ปิด การย่อ-ขยาย และการย้ายหน้าต่าง
2.5.1 การปรับขนาดหน้าต่าง
เลื่อนตัวชี้เมาส์ไปยังขอบของหน้าต่าง ตัวชี้เมาส์จะเปลี่ยนรูปจาก เป็น หรือรูปอื่น ๆ
ดังต่อไปนี้ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ชี้เมาส์ คลิกเมาส์ค้างไว้แล้วลาก หน้าต่างจะเปลี่ยนขนาดไป
เมื่อได้ขนาดตามต้องการแล้วให้ ปล่อยเมาส์
2.5.2 ย่อหน้าต่างที่เปิดอยู่ให้เล็กสุด
คลิกที่ปุ่ม บนด้าน ขวา มือของ Titlebar
2.5.3 การขยายหน้าต่างให้ใหญ่ที่สุด
คลิกที่ปุ่ม บนด้าน ขวา มือของ Titlebar ถ้าหน้าต่างมีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่แล้วบนด้าน ขวา
มือของ Titlebar จะแสดงปุ่ม แทนปุ่ม
2.5.4 การคืนรูปหน้าต่าง
คลิกที่ปุ่ม บนด้าน ขวา มือของ Titlebar ถ้าขนาดหน้าต่างไม่ได้มีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่แล้วบน
ด้าน ขวา มือของ Titlebar จะแสดงปุ่ม แทนปุ่ม
2.5.5 การย้ายหน้าต่าง
ชี้เมาส์ ไปที่ Titlebar คลิกเมาส์ ค้าง ไว้ แล้ว ลาก เมาส์ไปยังตำแหน่งของหน้าจอที่ต้องการ
เคลื่อนย้าย หลังจากนั้น ปล่อย เมาส์ในตำแหน่งที่ต้องการ
2.5.6 การสลับระหว่างหน้าต่างที่กำลังเรียกใช้
คลิกปุ่มของโปรแกรมบน Taskbar ถ้าไม่สามารถมองเห็น Taskbar ให้ชี้ไปที่พื้นที่ของหน้าจอ
บริเวณตำแหน่งของTaskbar ตัวอย่างเช่น ถ้า Taskbar อยู่ที่ตำแหน่งล่างสุดของหน้าจอ ให้คลิกไปที่
โปรแกรมนั้น หรือจะใช้วิธีลัดโดยกดคีย์บอร์ด Alt+Tab และเลือกโปรแกรมที่ต้องการใช้งาน
2.6 การจัดการไฟล์และโฟลเดอร์
2.6.1 ไฟล์ (File)
ไฟล์คือสิ่งที่ใช้สำหรับอ้างอิงข้อมูลหรือโปรแกรมที่เก็บบันทึกลงดิสก์ ปกติการอ้างอิงไฟล์จะทำ
โดยผ่านชื่อไฟล์และตามด้วยจุดนามสกุลของโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้น จำนวนของไฟล์จะขึ้นอยู่กับขนาด
ของไฟล์เองและดิสก์ ซึ่งปกติถ้าดิสก์มีขนาดใหญ่มากจะสามารถเก็บไฟล์จำนวนมากได้ ตัวอย่างของไฟล์
ที่ควรรู้จัก
15
ชื่อไฟล์ ชนิดของไฟล์
Readme.TXT ไฟล์ตัวอักษร
Calc.EXE ไฟล์โปรแกรม
Doc1.DOC ไฟล์ MS Word
Book1.XLS ไฟล์ MS Excel
2.6.2 การขนาดของไฟล์ (File Size)
การวัดขนาดของไฟล์นิยมใช้หน่วยที่เป็นไบต์ (Byte) ซึ่งอาจเทียบได้กับ 1 ตัวอักษร และเพื่อ
ความสะดวกสำหรับไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มาก จะเทียบหน่วยของไฟล์ที่เป็นไบต์ให้เป็นหน่วยที่มีขนาดใหญ่
ขึ้นได้ดังตาราง
1 Byte (ไบต์) 1 ตัวอักษร
1KB (กิโลไบต์) 1,024 Byte
1MB (เมกกะไบต์) 1,024 KB
1GB (กิกะไบต์) 1,024 MB
ความจุของแผ่นดิสก์ (Diskette) ขนาด 3.5 นิ้วคือ 1.44 MB หรือประมาณ 1,440 KB
2.6.3 โฟลเดอร์ (Folder)
โฟลเดอร์เปรียบเสมือนแฟ้มเอกสารที่ใช้แบ่งไฟล์ออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อความสะดวกในการ
ค้นหาไฟล์ ภายในโฟลเดอร์สามารถสร้างโฟลเดอร์ย่อยเพื่อแบ่งกลุ่มไฟล์ย่อยๆ ลงไปอีกได้
การตั้งชื่อไฟล์หรือโฟลเดอร์สามารถมีอักขระได้มากที่สุด 255 อักขระรวมถึงช่องว่างด้วย แต่ไม่
สามารถมีอักขระต่อไปนี้คือ \ / : * ? " < > |
16
2.6.4 Windows Explorer
Windows Explorer คือโปรแกรมที่ Microsoft Windows XP จัดหามาให้เพื่อใช้สำหรับการ
จัดการในเรื่องของดิสก์ ไฟล์ และโฟลเดอร์ เราสามารถเรียกใช้โปรแกรม Windows Explorer โดยการ
คลิกที่ปุ่ม Start 􀃆 All Program 􀃆 Accessories 􀃆 Windows Explorer
หรือนำเมาส์ไปชี้ที่ปุ่ม Start คลิกเมาส์ขวาจะปรากฏเมนูย่อย
ขึ้นมา แล้วคลิกคำสั่ง “Explore”
ส่วนประกอบของ Windows Explorer
A. Menu Bar ส่วนในการเลือกคำสั่งของโปรแกรม
B. Toolbar ส่วนไอคอนที่เป็นรูปภาพ ทำให้การเรียกงานใช้สะดวกขึ้น
C. ส่วนแสดงโครงสร้าง เป็นส่วนที่แสดงโครงสร้างของโฟลเดอร์ที่จัดไว้ในระบบ
D. ส่วนแสดงรายชื่อไฟล์ เป็นส่วนที่แสดงรายชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ย่อย (ถ้ามี) ของโฟลเดอร์ที่
เลือกไว้ในส่วนแสดงโครงสร้างขณะนั้น
A
B
C
D
17
รูปแบบการอ้างอิงไฟล์และโฟลเดอร์
รูปแบบที่ใช้ในการอ้างอิงไฟล์และโฟลเดอร์เรียกว่า Path ซึ่งประกอบด้วย ไดร์ฟ โฟลเดอร์ และ
ไฟล์ ดังตัวอย่าง A:\Document\Test1.doc
2.6.5 การ Format
การฟอร์แมต คือ การจัดโครงสร้างของดิสก์ให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถบันทึกข้อมูลได้ ดังนั้นก่อน
การใช้งานดิสก์ทุกครั้งเราจะต้องฟอร์แมตดิสก์เสียก่อน
ในสมัยก่อนแผ่นดิสก์ที่ซื้อมาจากร้านจะยังไม่ถูกฟอร์แมต ดังนั้นผู้ใช้จะต้องเป็นผู้ฟอร์แมต แต่
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ ในปัจจุบันแผ่นดิสก์ที่ซื้อจากร้านจะถูกฟอร์แมตมาให้เรียบร้อย
แล้ว
เมื่อต้องการฟอร์แมต สามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้ คลิกเลือกไดร์ฟที่ต้องการฟอร์แมต เช่น
ต้องการ Format แผ่นดิสก์ (Floppy Disk) แล้วเลือกเมนู File เลือก หลังจากนั้นเลือก
คำสั่ง Format
หรือคลิกที่ปุ่มขวาของเมาส์ ณ บริเวณหน้าต่างโฟลเดอร์ที่
เขียนว่า 3.5 Floppy (A:) ดังรูป แล้วเลือกคำสั่ง Format ก็ได้
เช่นเดียวกัน
18
หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าต่างย่อยขึ้นดังรูปข้างล่าง
เลือกตัวเลือกต่างๆ ตามต้องการและคลิกที่ปุ่ม
Start จากนั้นจะปรากฏหน้าต่างยืนยันการ
Format ให้กดปุ่ม Start
หมายเ หตุ การใช้คำ สั่งนี้ค ว ร ใ ช้อย่า ง
ระมัดระวัง เนื่องจากจะทำให้ข้อมูลที่มีอยู่ในไดร์ฟถูกลบและไม่สามารถกู้คืนได้ ดังนั้นต้องคลิกเลือก
ไดร์ฟที่ต้องการฟอร์แมตให้ถูกต้อง
2.6.6 การจัดแบ่งพื้นที่ของ 2 ส่วน
1. เลือกตัวชี้ของเมาส์ไปที่เส้นแบ่งเขตและตัวชี้เป็นรูปลูกศร
2. ลากเส้นแบ่งเขตตามต้องการโดยการคลิกเมาส์ค้างและลากเมาส์ไปด้านซ้ายหรือขวา เมื่อได้
ขนาดของแต่ละส่วนตามต้องการแล้วให้ปล่อยเมาส์
เส้นแบ่งเขต
เลือกความจุตามชนิดของแผ่น
ปกติแผ่นที่นิยมใช้คือ 3.5”
ตั้งชื่อแผ่นได้ยาวถึง 11 ตัวอักษร
คลิก 􀀖 ที่ Quick Format
19
ส่วนแสดงโครงสร้าง
โฟลเดอร์ใดที่มี + หรือ - นำหน้าแสดงว่ามีโฟลเดอร์ย่อยอีก โดยที่
+ ยังไม่ได้แสดงโฟลเดอร์ย่อยในขณะนั้น
- แสดงโฟลเดอร์ย่อยอยู่
หากไม่มีเครื่องหมายใดๆ นำหน้าโฟลเดอร์แสดงว่าโฟลเดอร์นั้นไม่มีโฟลเดอร์ย่อย
ส่วนแสดงรายชื่อไฟล์
เป็นส่วนที่อยู่ทางด้านขวาของส่วนแสดงโครงสร้าง เป็นส่วนที่แสดงรายละเอียดของไฟล์และ
โฟลเดอร์ย่อย โดยสามารถเรียกดูข้อมูลในรูปแบบต่างๆ ได้ หรือสามารถจัดเรียงไอคอนได้ โดยคลิกที่
เมนู View ดังรูป
การเรียกดูข้อมูลรูปแบบต่างๆ
• Thumbnails เป็นการกำหนดมุมมองของภาพให้มีตัวอย่างภาพเล็กๆ อยู่
• Tiles กำหนดมุมมองของภาพแสดงรายละเอียดไอคอนไฟล์ขนาดใหญ่
ไม่มีโฟลเดอร์ย่อย
มีโฟลเดอร์ย่อยแต่ยังไม่แสดงออกมา
มีโฟลเดอร์ย่อยและแสดงให้เห็นอยู่
การดูข้อมูลในรูปแบบต่างๆ
การจัดเรียงไอคอน
20
• Icons กำหนดมุมมองของภาพแสดงเป็นไอคอนไฟล์ขนาดเล็ก
• List กำหนดมุมมองของภาพให้มีลักษณะเป็นแถบรายการ
• Details กำหนดมุมมองของภาพให้แสดงรายละเอียดของไฟล์และโฟลเดอร์
การจัดเรียงไฟล์และโฟลเดอร์สามารถจัดเรียงตาม
• ชื่อ (Name)
• ขนาด (Size)
• ชนิด (Type)
• วันที่มีการแก้ไข (Modified)
วิธีนี้การจัดเรียงไฟล์และโฟลเดอร์นอกจากจะใช้เมนู View แล้วผู้ใช้สามารถจัดเรียงโดยกดปุ่ม Tab
Name Size Type
ตัวอย่างหน้าจอของการจัดเรียง
ไฟล์และโฟลเดอร์ตามชื่อ
(Name) จะเห็นได้ว่ามีการ
จัดเรียงจากอักษร
A-Z ตามลำดับ
21
2.6.7 การดูรายละเอียดของดิสก์
• คลิกเมาส์ 1 ครั้งเพื่อเลือกไดร์ฟที่ต้องการ
• คลิกเมาส์ขวาจะปรากฏเมนูย่อย
• เลือกคำสั่ง Properties ในเมนูที่เกิดขึ้น
• หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าต่างแสดงรายละเอียดของดิสก์ขึ้น
2.6.8 การสร้างโฟลเดอร์
เมื่อต้องการสร้างโฟลเดอร์ภายในดิสก์ สามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
คลิกที่ตัวอักษรแทน Drive ที่ต้องการสร้างดิสก์ (ในกรณีที่ต้องการสร้างโฟลเดอร์ย่อยใน
โฟลเดอร์อื่นๆ ให้คลิกที่ชื่อโฟลเดอร์ที่ต้องการสร้างโฟลเดอร์ย่อยภายใน)
คลิกที่เมนู File และเลื่อนเมาส์มาบริเวณคำสั่ง New จะปรากฏเมนูย่อยขึ้นทางด้านขวาให้คลิกที่
คำสั่ง Folder ดังรูป
ความจุของดิสก์
พื้นที่ที่ถูกใช้ไป
พื้นที่ว่างในดิสก์
ตั้งชื่อแผ่นดิสก์
22
จะปรากฏโฟลเดอร์ชื่อ New Folder ที่หน้าต่าง View ให้พิมพ์ชื่อโฟลเดอร์ที่ต้องการ และกดปุ่ม
Enter ดังรูป
บริเวณที่ต้องพิมพ์ชื่อโฟลเดอร์
2.6.9 การเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์
หลังจากที่ได้ตั้งชื่อโฟลเดอร์เรียบร้อยแล้ว เราสามารถเปลี่ยนชื่อของโฟลเดอร์ในภายหลังได้ตาม
ขั้นตอนต่อไปนี้
คลิกที่ชื่อของโฟลเดอร์ที่ต้องการเปลี่ยน 1 ครั้ง สังเกตว่าจะปรากฏแถบสีน้ำเงินขึ้น
คลิกที่ชื่อของโฟลเดอร์ซ้ำอีก 1 ครั้ง
พิมพ์ชื่อที่ต้องการเปลี่ยน
กดปุ่ม Enter
2.6.10 การคัดลอกและการย้ายแฟ้มหรือโฟลเดอร์
1. ใน Windows Explorer ให้คลิกแฟ้มหรือโฟลเดอร์ที่ต้องการคัดลอก
2. บนเมนู Edit ให้คลิก Copy สำหรับการคัดลอกหรือคลิก Cut สำหรับการย้าย
3. เปิดโฟลเดอร์หรือดิสก์ที่ต้องการวางแฟ้มหรือโฟลเดอร์ที่คัดลอกไว้
4. บนเมนู Edit ให้คลิก Paste
23
2.6.11 การส่งแฟ้มหรือโฟลเดอร์ไปที่ดิสก์
ถ้าต้องการคัดลอกแฟ้มหรือโฟลเดอร์ไปที่แผ่นดิสก์ (Floppy Disk) ให้ใส่ดิสก์ในดิสก์ไดรฟ์
ที่ My Computer หรือ Windows Explorer ให้คลิกแฟ้มหรือโฟลเดอร์ที่ต้องการคัดลอก
บนเมนู File ให้ชี้ไปที่ Send To แล้วคลิกไดรฟ์ที่ต้องการคัดลอกแฟ้มหรือโฟลเดอร์ไปเก็บไว้
24
เมื่อต้องการเลือกโฟลเดอร์ในบานหน้าต่างซ้ายของ Windows Explorer ให้คลิกโฟลเดอร์นั้น
การส่งแฟ้มหรือโฟลเดอร์ไปที่ดิสก์เป็นการคัดลอกแฟ้มหรือโฟลเดอร์นั้น แฟ้มหรือโฟลเดอร์
ต้นฉบับยังคงอยู่ในตำแหน่งดั้งเดิม
2.6.12 การลบแฟ้มหรือโฟลเดอร์
ใน My Computer หรือ Windows Explorer ให้คลิกแฟ้มหรือโฟลเดอร์ที่ต้องการลบ
บนเมนู File ให้คลิก Delete
หากลบไฟล์ในไดร์ฟของวินโดวส์ วินโดวส์
จะให้เรายืนยันการลบหากเราเลือก
วินโดวส์จะนำไฟล์นั้นไปเก็บไว้ในส่วนของ
Recycle Bin เพื่อให้เรียกกลับคืนมาได้
หากลบไฟล์ในไดร์ฟอื่น วินโดวส์จะให้
เรายืนยันการลบ หากเราเลือก
ไฟล์นั้นจะถูกลบโดยไม่สามารถเรียก
คืนได้
25
2.6.13 การทำงานกับไฟล์แบบกลุ่ม
1. การเลือกไฟล์หลายๆ ไฟล์ที่ไม่อยู่ติดกัน สามารถทำได้โดยกดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ และ คลิกที่ชื่อ
ไฟล์ที่ต้องการเลือกทีละไฟล์จนหมด
2. การเลือกไฟล์หลายๆ ไฟล์ที่อยู่ติดกัน ทำได้โดยคลิกที่ชื่อไฟล์แรกที่ต้องการเลือก หลังจาก
นั้นกดปุ่ม Shift ค้างไว้และคลิกที่ชื่อไฟล์สุดท้ายของกลุ่มไฟล์ที่จะเลือก
2.6.14 การ Copy Disk
ในบางครั้ง เราอาจต้องการ Copy ไฟล์ทั้งหมดในแผ่นดิสก์แผ่นหนึ่งไปยังอีกแผ่นหนึ่งโดย
ต้องการให้มีโครงสร้างทั้งหมดเหมือนกัน ในกรณีนั้น เราสามารถทำได้โดยใช้คำสั่ง Copy Disk โดย
สามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
คลิกขวาที่ Drive ที่ต้องการ Copy Disk ดังรูป
26
จะปรากฏเมนูลักษณะดังรูปต่อไปนี้
เลือก Drive ที่ต้องการ Copy และคลิกที่ปุ่ม Start
หลังจากนั้นโปรแกรมจะมี Dialog Box เพื่อให้ใส่ Source Disk ซึ่งหมายถึงแผ่นต้นฉบับ
หลังจากที่โปรแกรมอ่านต้นฉบับเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมี Dialog Box อีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ใส่แผ่น
Destination Disk โดยดึงแผ่นเดิมออก และใส่แผ่นดิสก์แผ่นใหม่ลงไป และกดปุ่ม OK โปรแกรมจะ Copy
ไฟล์ โฟลเดอร์ ทั้งหมดลงแผ่นใหม่
2.6.15 การค้นคืนไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ลบไป
• ดับเบิลคลิกที่ ไอคอน Recycle Bin
• จากหน้าต่าง Recycle Bin คลิกเลือกแฟ้มที่ต้องการให้
กลับคืนมา
บนเมนู File ให้คลิก Restore หรือ คลิกขวาที่ชื่อไฟล์จะปรากฏเมนูย่อยให้เลือกคำสั่ง Restore
2.6.16 การค้นหาไฟล์หรือโฟลเดอร์
• คลิก Start ชี้ไปที่ Search แล้วคลิก For Files or Folders
• ใน All or part of the name ให้พิมพ์ชื่อแฟ้มทั้งหมดหรือบางส่วน
• ถ้าต้องการให้ค้นหาภายใน Folder ให้ระบุใน Look in:
• จากนั้นคลิกที่ Search
27
2.6.17 การยกเลิกคำสั่ง (Undo)
ในการใช้คำสั่งใดคำสั่งหนึ่งไปแล้ว หากเกิดเปลี่ยนใจ ผู้ใช้สามารถขอยกเลิกคำสั่งครั้งล่าสุดได้
เสมอ โดยคลิกที่เมนู Edit และเลือกคำสั่ง Undo เครื่องจะทำการยกเลิกคำสั่งครั้งล่าสุดที่ได้กระทำไป
เช่น ยกเลิกการ Delete ตัวอย่างดังรูป
2.7 การปรับเวลานาฬิกาบนเครื่องคอมพิวเตอร์
การปรับเปลี่ยนเวลาสามารถทำได้โดยการคลิกที่ Start จากนั้นคลิกเลือกที่ Control Panel เมื่อ
ปรากฏหน้าต่างของ Control Panel แล้ว ให้คลิกเลือกที่ Date time, Language, and Regional Option
จากนั้นให้เลือกที่ Date and Time จะปรากฏหน้าต่างเพื่อปรับเปลี่ยนเวลาดังรูป
การปรับเปลี่ยนชั่วโมง นาที หรือวินาที ทำได้ดังนี้
• นำเมาส์ไปป้ายตำแหน่งของตัวเลขที่ต้องการเปลี่ยนให้ขึ้นแถบสี
• พิมพ์ค่าตัวเลขที่ต้องการเปลี่ยน
28
2.8 การใช้โปรแกรม Task Manager
ในกรณีที่เราต้องการปิดโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ ซึ่งไม่สามารถปิดโดยใช้วิธีปกติได้ เราสามารถที่จะ
กด ปุ่ม Ctrl+Alt+Delete พร้อมกัน เพื่อเรียกโปรแกรม Task Manager เมื่อปรากฏ Windows Task
Manager ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้
1. คลิกเมาส์ที่ Tab Application
2. คลิกเมาส์ที่ชื่อโปรแกรมที่ต้องการปิด
3. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม End Task
􀁘
􀁙
􀁚
29
2.9 การตรวจสอบและกำจัดไวรัส
การเรียกโปรแกรม Trend OfficeScan Corporate Edition ขึ้นมาใช้งาน ทำได้โดย Click เมาส์
ขวาที่ไอคอน หรือ บน Taskbar หรือ เลือก Start 􀃆 Programs􀃆 Trend OfficeScan
WinNT
การ Scan Virus
การใช้คำสั่ง Scan
1. check ลงในกล่องสี่เหลี่ยม หน้า
drive ที่ต้องการ scan virus
2. จากนั้น กด
ปุ่ม Scan Now
30
หน้าจอขณะที่โปรแกรมกำลัง scan
เมื่อโปรแกรม scan เสร็จสิ้นแล้วจะ popup dialog box รายงานผลการ scan
31
การกำจัด Virus
ในหน้าจอ Scan result จะรายงานผลการ scan พร้อมทั้งแสดงรายชื่อ virus ที่มีอยู่ในเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถกำจัดได้โดย เลือกที่รายชื่อไฟล์ที่ติด virus ที่แสดงอยู่ แล้วเลือกที่ clean
โปรแกรมก็จะกำจัด virus
แสดงชื่อไฟล์ที่มีการติด virus ปุ่ม Clean

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น